ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณแรงเชียร์จากผู้ที่โหวตให้กับผลงาน L’amour ว่าเป็นน้ำหอมที่ชื่นชอบที่สุดจนได้รับรางวัล The Winner สาขา Popular Vote ในปี 2023 และ ขอขอบคุณคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ที่ตัดสินให้เป็น The Winner ในสาขา Fasionable Fragrance Awards 2023 ทั้ง 2 รางวัลนี้มีคุณค่าทางจิตใจถือเป็นเกียรติให้กับคนทำน้ำหอมและแบรนด์ Lermul มากๆ ค่ะ

               ขอย้อนกลับไปที่อารมณ์ ความรู้สึก ที่เป็นเสมือนแรงบันดาลใจที่ทำกลิ่นนี้ออกมาก่อนค่ะ
               ช่วงนั้นได้รับแรงบันดาลใจมาจากน้ำหอมวินเทจ อารมณ์ตอนนั้นอยากทำ “เรื่องราวกลิ่นหอมของความรักที่มีความโรแมนติค ความคลาสสิคนิรันดร์” เลยตั้งชื่อไว้ว่า L’amour เป็นภาษาฝรั่งเศส ที่แปลว่า “ความรัก” ใจความหลักของกลิ่นนี้ที่ตั้งไว้คือ “กลิ่นความรัก” จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก “ดอกกุหลาบ”  ซึ่งเราเป็นคนที่ชอบทำน้ำหอมฉ่ำๆ ติดหวานแบบ Feminine แต่ไม่ค่อยชอบกลิ่นกุหลาบจ๋าสักเท่าไร กุหลาบที่ฟุ้งตะโกนว่า “กุหลาบบบบ” จะไม่ค่อยอิน แต่จะปลื้มกับน้ำหอมที่มีกลิ่นกุหลาบแฝง แบบพอให้เราจับกลิ่นได้ ว่าในโน้ตนี้ มีกุหลาบละมุน หวานๆ อ้อยอิ่งซ่อนอยู่ ตั้งใจนำโน้ตของ Bulgarian Rose มาเป็นโน้ตเปิด สอดประสานกับกลิ่นฉ่ำๆ ของ Sweet Orange กับกลุ่มโน้ตของ Friuty เป็นความตั้งใจที่อยากทำให้เป็นกลิ่นกุหลาบที่มีความสดใส เหมือนความรักที่สดใส แรกแย้ม ถ้าใครชอบกุหลาบก็จะจับกลิ่นกุหลาบใน L’amour ได้ แต่ถ้าใครไม่ชอบกุหลาบ ก็จะจับกลิ่นไม่ได้ (เพราะน้องซ่อนอยู่แบบสงบเสงี่ยมเรียบร้อย) หรืออาจจะเปลี่ยนใจมาชอบน้ำหอมที่มีโน้ตกุหลาบแบบ L’amour เลยก็ว่าได้ค่ะ อีกโน้ตหนึ่งที่นำมาใส่ก็คือโน้ตของ Parma Violet ตั้งใจให้เข้ากับความคลาสสิคที่สื่อถึงกระดาษเขียนจดหมาย จะจับกลิ่นนี้ได้ในช่วงกลาง กลิ่นจะมีความ Powdery นิดๆ และสุดท้ายต้องยกให้ความหวานโรแมนติคของ Sandal wood แทรกด้วยกลิ่น Patchuli ที่ช่วยส่งกลิ่นอายความเป็นวินเทจ ความหนักแน่นของความรักนิรันดร์”