สำหรับหลาย ๆ คนที่สนใจข่าวคราวจากวงการ AI (Artificial Intelligence) น่าจะรู้จัก ChatGPT (สามารถเข้าไปดูได้ที่ chat.openai.com) แชตบอตที่เป็นที่โด่งดังสำหรับผู้ใช้ทั่วไปในปัจจุบัน โดยที่ผู้ใช้สามารถพูดคุยโต้ตอบกับ ChatGPT และขอให้มันช่วยคิด เขียน หรือแก้ไขข้อความต่าง ๆ แต่งนิยาย รวมไปถึงสามารถเขียนโปรแกรมคอมพิวเตอร์ก็ได้ด้วย นอกจากนั้นยังสามารถคิดสูตรต่าง ๆ เช่นสูตรอาหาร พร้อมทั้งขั้นตอนวิธีการทำได้อีกด้วย โดยที่เราสามารถโต้ตอบเพื่อให้ ChatGPT พยายามเปลี่ยนแปลง แก้ไข หรือเพิ่มรายละเอียดลงไปในไอเดียที่กำลังทำได้ด้วย ถือว่าเป็นเครื่องมือที่นำมาช่วยในการสร้างสรรค์ที่น่าสนใจ
ChatGPT มีการสะสมความรู้และบทสนทนาต่าง ๆ ไว้ แต่ไม่มีความสามารถในการเข้าถึง internet เราจึงไม่สามารถสั่งให้มันเข้าไปหาข้อมูลหรือข่าวคราวใหม่ ๆ ในปัจจุบันได้ แต่ถึงกระนั้น ChatGPT ก็เคยสะสมความรู้ในด้านต่าง ๆ จากทั่วโลกที่อยู่ในรูปแบบข้อความไว้อย่างมากมาย นั่นรวมถึงเรื่องเกี่ยวกับ น้ำหอม วัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำหอม สารเคมี และบทความต่าง ๆ เกี่ยวกับน้ำหอมไว้ด้วย
ในเมื่อมันสะสมความรู้ด้านต่าง ๆ เอาไว้ ดังนั้น มันจะสามารถออกแบบหรือคิดสูตรน้ำหอมได้หรือไม่ ทางที่ง่ายที่สุดก็คือ ลองสัมภาษณ์ ChatGPC กัน ว่าสามารถทำได้หรือไม่?
คำถามที่เราป้อน: Can you write a perfume formula? คำตอบของ ChatGPT: Perfume formulas, also known as “perfume recipes,” are closely guarded trade secrets in the fragrance industry. However, I can give you an example of a basic perfume formula that can be used as a starting point for creating your own fragrances. (เจ้า AI ดูเหมือนจะไม่แน่ใจแต่ในเนื้อความก็แอบอยากลอง) Here is a basic perfume formula for a floral scent: (และมันก็ทำจริงๆ) Top notes: 10% bergamot, 5% lemon Middle or “heart” notes: 50% rose, 30% jasmine Base notes: 10% sandalwood, 5% musk (ไม่พูดพร่ำทำเพลงในการรอคำสั่งก็อวดภูมิก่อนเลย 1 สูตร) This formula uses percentages to indicate the relative amounts of each ingredient. To make a small batch of perfume using this formula, you would need to measure out the ingredients in the proper proportions. For example, if you were making a 30mL batch, you would use 3mL of bergamot, 1.5mL of lemon, 15mL of rose, 9mL of jasmine, 3mL of sandalwood, and 1.5mL of musk. It is important to note that perfumery is an art and a science and it require a lot of experience and knowledge of the ingredients to create a good fragrance. It is also important to note that using natural ingredients can be very expensive and hard to find, and that’s why many commercial perfumes are made with synthetic ingredients. |
นั่นคือแจ้งมาก่อนว่า สูตรน้ำหอมนั้นโดยปกติค่อนข้างความลับของวงการน้ำหอม แต่ ChatGPT ก็พยายามเขียนตัวอย่างสูตรน้ำหอมง่าย ๆ ขึ้นมาจากโน้ต (เช่นคำว่า amber) หรือวัตถุดิบต่าง ๆ (เช่น bergamot, jasmine) ที่พวกเราพบเจอกันบ่อย ๆ ในน้ำหอม แต่ก็ยังมีข้อบกพร่องที่แปลงจาก % ในสูตรที่ตัวเองเขียน เป็นการตวงวัตถุดิบด้วยหน่วย mL (มิลิลิตร) ซึ่งต่างจากกระบวนการการเขียนและผสมสูตรน้ำหอมซึ่งควรจะใช้หน่วยน้ำหนักเป็นกรัมในการชั่งตวง จากตัวอย่างนี้เราจะเห็นว่าได้ ChatGPT ยังไม่เข้าใจการทำงานของ perfumer โดยตรง อาจจะเป็นการไปเอาตัวอย่างมาจากตาม internet แต่เราอาจจะยังใช้งานมันในลักษณะการช่วยคิดและรวมรวมไอเดีย ให้ใช้เป็นผู้ช่วยได้
สิ่งหนึ่งที่ ChatGPT ทำได้คือการแปลหรือแปลง ข้อมูล ไอเดีย เพื่อเชื่อมโยงไปหาอีกเรื่องหนึ่ง เช่นเราสามารถให้ ChatGPT แต่งเพลงที่เรากำหนดไปว่า happy, sad, dark, bright ฯลฯ แล้ว ChatGPT ก็สามารถแปลงให้เรื่องราวไปทางอารมณ์ต่าง ๆ ที่เราเสนอได้ หลังจากการทดลองหลาย ๆ รอบ การให้ ChatGPT เขียนสูตรน้ำหอมโดยตรง ออกมาเป็นวัตถุดิบต่าง ๆ ยังทำได้ไม่ดี แต่การแปลงเรื่องราว สถานการณ์ หรืออารมณ์ให้กลายเป็นโน้ตน้ำหอมนั้น สามารถทำได้ทันที และด้วยความรู้ที่สะสมไว้ ยังสามารถหาความเชื่อมโยงระหว่างโน้ตน้ำหอมและวัตถุดิบต่าง ๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบจากธรรมชาติ และ aroma chemical ที่เป็นชื่อสารเคมีต่าง ๆ ยกตัวอย่างได้ดังนี้
คำถามที่เราป้อน: Can you give me some examples of aroma chemicals that can produce pineapple perfume note? คำตอบของ ChatGPT: Sure, here are a few examples of aroma chemicals that can be used to create a pineapple scent in perfumery: (ดูมีความมั่นใจขึ้น)
|
จะเห็นว่า ChatGPT พอจะยกตัวอย่างสารที่มีประโยชน์ในการทำโน้ต pineapple ได้ ดังนั้น ความเป็นไปได้หนึ่งในการใช้ ChatGPT ในการคิดสูตรน้ำหอมนั้น คือให้ ChatGPT ทำการออกแบบโน้ตที่จะใช้ในน้ำหอมนั้นให้เข้ากับโจทย์ที่ให้ และทำการแปลงโน้ตต่าง ๆ ให้กลายเป็นวัตถุดิบของน้ำหอมต่าง ๆ
เนื่องในโอกาสขึ้นปีใหม่ 2023 ที่ผ่านมาเราก็เลยลองให้โจทย์เป็นการเฉลิมฉลอง, ขึ้นปีใหม่กัน แล้วให้ ChatGPT ลองแปลงโจทย์เป็นโน้ตน้ำหอม แบบ top, middle, base notes
คำสั่งของเรา: คำตอบของ ChatGPT: (มีความมั่นใจน่าดู) Top notes:
Middle notes:
Base notes:
Overall, this perfume would have a festive and uplifting top note, a romantic and floral middle note, and a warm and comforting base note. The combination of lemon and ginger in the top notes would give the perfume a refreshing and invigorating feel, while the jasmine and rose in the middle notes would add a touch of romance and elegance. The vanilla and amber in the base notes would provide a warm and comforting finish to the perfume, making it perfect for a New Year celebration. |
ในขั้นนี้ ถ้าเราไม่ต้องการโน้ตอะไร หรือต้องการเพิ่มโน้ตอะไร ก็สามารถบอก ChatGPT ได้ เช่นถ้าเราต้องการกลิ่นที่ทำให้นึกถึงช่วยเทศกาลที่อยู่ที่บ้านกับครอบครัว มีกลิ่นอาหาร เราอาจจะเพิ่ม สมุนไพร หรือเครื่องเทศเข้าไป เพื่อให้เข้ากับบรรยากาศแบบ festive ในโจทย์ เช่นผมเลือกเพิ่มเครื่องเทศ 2 ชนิดคือ clove (กานพลู) และ cinnamon (อบเชย)
คำสั่งของเรา: คำตอบของ ChatGPT: Sure! Here is a revised version of the perfume with clove and cinnamon added as top notes for a warm and festive feeling: Top notes:
Middle notes:
Base notes:
The addition of clove and cinnamon to the top notes of this perfume would give it a warm and festive feeling, thanks to their spicy and comforting qualities. The lemon and ginger would still provide a refreshing and invigorating touch, while the jasmine and rose in the middle notes would add a touch of romance and elegance. The vanilla and amber in the base notes would provide a warm and comforting finish to the perfume, making it perfect for a New Year celebration. |
จะเห็นได้ว่าเมื่อเพิ่มโน้ตทั้งสองลงไปนั้น ChatGPT ก็พยายามอธิบายความรู้สึกของกลิ่นของสองอย่างนั้นออกมาให้ด้วยโดยที่เราไม่ได้บอก ก็คือตรง spicy and comforting ถือว่าเป็นการพยายามตีความจากโน้ตอย่างหนึ่งที่ ChatGPT พยายามทำ
ขั้นต่อไปคือการทดลองให้ ChatGPT พยายามแปลงโน้ตต่าง ๆ ให้กลายเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำหอม ในกรณีเราสามารถใส่ความต้องการไปเพิ่มได้ด้วย เช่น “ห้ามใช้วัตถุดิบจากสัตว์”
คำสั่งของเรา: คำตอบของ ChatGPT: Top notes:
Middle notes:
Base notes:
These raw materials would allow you to create a perfume with a festive and uplifting top note, a romantic and floral middle note, and a warm and comforting base note. The lemon and ginger essential oils would give the perfume a refreshing and invigorating feel, while the clove bud and cinnamon leaf essential oils would add a warm and festive touch. The jasmine and rose absolutes in the middle notes would add a touch of romance and elegance, and the vanilla absolute and ambergris tincture in the base notes would provide a warm and comforting finish. Note: Ambergris tincture is a synthetic substitute for natural ambergris, which is derived from the intestinal secretions of sperm whales. It is commonly used in perfumery as a fixative and base note, but some people may prefer to use alternative fixatives such as synthetic musk or labdanum resinoid. |
จะเห็นได้ว่า ChatGPT เลือกวัตถุดิบต่าง ๆ มาเป็นชนิดที่มีในการทำน้ำหอมจริง ๆ เช่น essential oil ของ lemon (เลมอน), ginger (ขิง), clove bud (ดอกตูมของกานพลู), cinnamon leaf (ใบของอบเชย) ในขณะที่ของบางอย่างเป็น absolute เช่น jasmine (มะลิ), rose (กุหลาบ), vanilla (วานิลลา) ซึ่งเป็นวัตถุดิบในการทำน้ำหอม แต่ก็มีความผิดพลาดเช่น เลือก ambergris tincture มา (อำพันทะเล หรืออีกชื่อคือ อ้วกปลาวาฬ) ซึ่งผิดกับโจทย์ที่ให้ไว้ว่าไม่ให้ใช้วัตถุดิบจากสัตว์ ซึ่งเราก็สามารถระบุได้ว่า ต้องการตัดวัตถุดิบนั้น หรือจะทดแทนด้วยสารสังเคราะห์ เช่น Ambroxan
วัตถุดิบหลายอย่างที่ ChatGPT เป็นวัตถุดิบที่ใช้ทำน้ำหอมอยู่แล้ว แต่มีราคาสูงมาก เช่น vanilla absolute จึงทดลองให้ ChatGPT ทำการแปลงวัตถุดิบธรรมชาติให้เป็น วัตถุดิบธรรมชาติรวมกับสารเคมี (aroma chemicals)
คำสั่งของเรา: คำตอบของ ChatGPT: Top notes:
Middle notes:
Base notes:
|
ในขั้นนี้ มีสารที่เราทำการเสนอไปด้วยว่าสามารถใช้แทน ambergris tincture เช่น Cedramber, Ambroxan, dihydro beta ionone, Amberketal IPM, Kephalis ส่วนของธรรมชาติเช่น vanilla absolute ก็ถูกกระจายออกมาเป็นสารเคมีอย่าง ethyl vanillin
เนื่องจากสูตรยังมีวัตถุดิบที่ราคาสูงอยู่ จึงลองให้ ChatGPT ลองออกคิดวัตถุดิบที่เอามาทดแทนของแต่ละอย่างได้ เช่น
ให้ช่วยเสนอสารที่ใช้แทน jasmine absolute:
- Indole: Sweet, floral, and spicy (natural aroma chemical found in jasmine and other plants)
- Farnesol: Sweet, floral, and citrusy (natural aroma chemical found in jasmine and other plants)
- 2-Phenyl ethanol: Sweet, floral, and rose-like (synthetic aroma chemical)
- Benzyl acetate: Sweet, floral, and fruity (synthetic aroma chemical)
- Linalool: Sweet, floral, and woody (natural aroma chemical found in many plants)
ให้ช่วยเสนอสารที่ใช้แทน vanilla absolute:
- Vanillin: Sweet, warm, and vanillic (synthetic aroma chemical)
- Ethylvanillin: Sweet, warm, and vanillic (synthetic aroma chemical)
- Furfural: Sweet, warm, and smoky (synthetic aroma chemical)
- Isovaleraldehyde: Sweet, warm, and smoky (synthetic aroma chemical)
- Helional: Sweet, tropical, and floral (synthetic aroma chemical)
หลังจากนั้นเราก็สามารถเลือกสารบางอย่างที่ ChatGPT เสนอมา และให้รวบรวมไว้ในวัตถุดิบที่จะใช้ในสูตร นอกจากนั้นเรายังขอให้เพิ่มวัตถุดิบเพื่อมาช่วย support (สนับสนุน) โครงสร้างของน้ำหอมด้วย เช่น Hedione, Iso E Super, alpha isomethyl ionone หรือสารที่เป็น synthetic musk (มัสก์สังเคราะห์) ที่จะเหมาะกับสไตล์น้ำหอมที่กำลังทำ เช่น Ethylene Brassylate, Celestolide
คำสั่งของเรา: (นี่ช่วยเยอะละนะ) คำตอบของ ChatGPT: Top notes:
Middle notes:
Base notes:
|
ขั้นตอนต่อไปเป็นขั้นตอนที่น่าสนใจว่า ChatGPT จะทำได้ดีหรือไม่? คือการเสนอปริมาณที่ใช้ในสูตรน้ำหอมเป็น % โดยระบุว่า ถ้าวัตถุดิบไหนกลิ่นแรง ให้ลดปริมาณตามความเหมาะสม (ซึ่งก็ไม่แน่ใจว่า ChatGPT จะประเมินความแรงของกลิ่นและปริมาณที่ควรจะลดได้หรือไม่?)
คำสั่งของเรา: (แอบลุ้นนะ ไม่มีจมูกจะกะได้แม่นป้ะ?) คำตอบของ ChatGPT: Top notes:
Middle notes:
Base notes:
|
สิ่งที่สังเกตได้จากสูตรน้ำหอมนี้คือ มีสารบางอย่างในปริมาณที่สูงมากเทียบกับวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น indole และ birch tar oil ดังนั้นจึงเป็นหน้าที่ของเราในการบอก ChatGPT ให้ปรับปริมาณวัตถุดิบให้ออกมาอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม หรือแปลงออกมาเป็นสูตรที่ง่ายต่อการผสม เช่นบอกให้ลดปริมาณวัตถุดิบแรง ๆ หรืออันตราย ให้อยู่ในปริมาณเท่าไหร่ เพิ่มวัตถุดิบที่ต้องการให้มีมาก ๆ จนถึงเท่าไหร่?
สรุปแล้ว chat bot อย่าง ChatGPT น่าจะยังไม่สามารถทดแทนการทำงานของ perfumer ที่คิดสูตรหรือปรุงน้ำหอมได้ ทั้งในเรื่องโครงสร้างของน้ำหอม และการประเมิน % ของวัตถุดิบที่ควรจะใช้ในน้ำหอม แต่ก็มีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่นสามารถใช้ช่วยแปลงจินตนาการ หรือโจทย์ของน้ำหอม ให้กลายเป็นโน้ตหรือวัตถุดิบที่ต้องการได้ เหมือนมีเพื่อนที่ช่วยกันคิดและระดมสมองเพื่อหาไอเดียมาทำน้ำหอม
อีกสิ่งที่ ChatGPT มีความสามารถอยู่แล้วคือ การพยายามเขียนคำอธิบาย เรามาดูตัวอย่างกันว่าถ้าให้ ChatGPT แต่งข้อความเพื่อใช้แนะนำน้ำหอมนี้ จะเขียนออกมาอย่างไร
คำสั่งของเรา: คำตอบของ ChatGPT: |
จะเห็นว่าได้ ChatGPT สามารถเขียน copy ทางการตลาดเพื่อใช้โฆษณาน้ำหอมนี้ได้ ซึ่งถ้าต้องการทิศทางเป็นอย่างไรก็ยังสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ ซึ่งสิ่งนี้ก็อาจจะเป็นประโยชน์อย่างหนึ่งของ ChatGPT ที่ช่วยคิดคำอธิบายน้ำหอมได้
จากการทดสอบจะเห็นได้ว่าการใช้ ChatGPT ในการทำน้ำหอมเราเองก็ต้องมีความรู้ในด้านน้ำหอมอยู่พอสมควร การเป็นผู้ช่วยเหมือนคำแนะนำมากกว่าจะหวังพึ่งเป็นเครื่องมือทำงานแทน ความน่าสนใจคือถ้าหากมีการนำระบบ AI นี้ไปพัฒนาต่อในบริษัทน้ำหอมไม่แน่ว่าในอนาคตการผลิตน้ำหอมอาจจะไม่ใช่ความลับเหมือนที่เจ้า ChatGPT พูดถ่อมตัวไว้ตั้งแต่ต้นอีกต่อไป และนี่คือสูตรที่เราช่วยเจ้า AI นี้ปรับจนใกล้เคียงความเป็นจริง
Top Note
Lemon Essential Oil 2.5%
Ginger Essential Oil 2.5%
Clove bud essential oil 2.5%
Methyl Pamplemousse 1.25%
Middle Note
Cinnamyl Aldehyde 1.25%
Cinnamyl Acetate 1.25%
Indole 10% in DPG 1.25%
Farnesol 1.25%
Phenyl Ethyl Alcohol 1.25%
Benzyl Acetate 1.25%
Linalool Synthetic 1.25%
Jasmine Absolute 10% in DPG 6.25%
Base Note
Vanillin 10% in DPG 25%
Ethyl Vanillin 10% in DPG 25%
Ethyl maltol 5% in DPG 2.5%
Birch Tar Oil Rectified 10% in DPG 1.25%
Hedione 2.5%
Iso E Super 2.5%
Ethylene Brassylate 2.5%
Celestolide 10% in DPG 12.5%
Alpha Isomethyl Ionone 2.5%