You are currently viewing ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเกี่ยวข้องอย่างไรกับกลิ่น?
ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเกี่ยวข้องอย่างไรกับกลิ่น?

ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมเกี่ยวข้องอย่างไรกับกลิ่น?

ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมนั้นจะถูกแบ่งออกเป็นชื่อเรียกดังต่อไปนี้ : Eau de Cologne, Eau de Toilette, Eau de Parfum และ Extrait de Parfum หรือเรียกสั้น ๆ ว่า Parfum ซึ่งก็เรียงตามความเข้มข้นของหัวน้ำหอม

โดยปกติตามความเข้าใจทั่วไป ความเข้มข้นของหัวน้ำหอมจะส่งผลต่อระยะเวลาความติดทนบนผิวและการกระจายฟุ้งในอากาศ โดย Eau de Cologne จะกระจายดีที่สุด และ Extrait de Parfum จะติดทนมากที่สุด

แต่…. ยังมีสิ่งหนึ่งที่หลายคนอาจไม่ทราบว่า หัวน้ำหอมหนึ่งกลิ่นไม่ได้เหมาะกับการผสมในทุกๆ ความเข้มข้นเสมอไป บางกลิ่นอาจเหมาะสำหรับทำ Eau de Cologne แต่ไม่เหมาะที่จะมาทำ Eau de Parfum เป็นต้น การจะทำน้ำหอมให้เหมาะกับความเข้มข้นนั้นจะต้องอาศัยความรู้และความเข้าใจในตัวกลิ่นก่อน มิเช่นนั้นเราจะไม่สามารถดึงศักยภาพของหัวน้ำหอมกลิ่นนั้นๆ ออกมาได้อย่างเต็มที่

หัวน้ำหอมประกอบด้วยสารหลายชนิดรวมกันเป็นเลเยอร์ของกลิ่นหลายๆ เลเยอร์ อาจมีสารเพียงหลักสิบไปจนถึงหลักร้อยในสูตรน้ำหอมนั้นๆ เปรียบเสมือนเป็นกระดาษที่ขยำเป็นก้อนกลมๆ หนึ่งก้อน

เมื่อเราผสมแอลกอฮอล์หรือเบสตัวอื่นๆ ลงไป จะเป็นการคลายก้อนกระดาษนั้นออกมาให้เห็นเลเยอร์ที่ชัดเจนขึ้นในหัวน้ำหอมตัวนั้นๆ ยิ่งมีสัดส่วนของเบสมากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งเห็นเลเยอร์ของน้ำหอมมากเท่านั้น ข้อดีคือน้ำหอมจะกระจายตัวได้ดีตามปริมาณแอลกอฮอล์ที่อยู่ในสูตร แต่ข้อเสียคือถ้าแอลกอฮอล์เยอะเกินไป กลิ่นของแอลกอฮอล์ก็จะเข้ามารบกวนกลิ่นน้ำหอมมากขึ้นเท่านั้น และส่งผลให้น้ำหอมนั้นติดไม่ทนบนผิว เราจึงมักจะเห็นน้ำหอม ระดับ Eau de Cologne ส่วนใหญ่ เป็นน้ำหอมที่มีค่า Impact ของกลิ่นสูงๆ อย่าง ส้ม ไม้สน สมุนไพร เป็นต้น

ตรงกันข้ามกับน้ำหอมที่มีแอลกอฮอล์ที่อยู่ในสูตรที่น้อยกว่าอย่าง (Extrait) Perfume จะทำให้กลิ่นมีความละมุน ดูเป็นกลุ่มก้อน และติดทนกว่า ซึ่งเหมือนจะมีข้อดีกว่าในหลายๆ ด้าน แต่น้ำหอมที่มีความเข้มข้นของหัวน้ำหอมมากเกินไป ก็จะทำให้กลิ่นหนักขึ้นจนทำให้เกิดอาการมึนกลิ่นในบางครั้ง แต่ก็ขึ้นกับความชอบและสภาวะร่างกายของแต่ละคนในการรับกลิ่น

ดังนั้นสำหรับคนที่กำลังปรุงหรือศึกษาเกี่ยวกับน้ำหอม ต้องพึงระวังเกี่ยวกับเรื่องของส่วนประกอบและความเข้มข้นของน้ำหอม ไม่ใช่ว่าเมื่อซื้อหัวน้ำหอมมาแล้วก็พยายามยัดหัวน้ำหอมให้มากๆ เข้าไว้ เพื่อความติดทนและการเพิ่มมูลค่าของน้ำหอม จนลืมบาลานซ์ของการกระจายและความเหมาะสมของหัวน้ำหอมชนิดนั้นๆ (ซึ่งในหัวข้อนี้เรายังไม่รวมข้อมูลด้านความปลอดภัยลงไปด้วย)

ซึ่งวิธีการสำหรับการตรวจสอบความเข้มข้นที่เหมาะสมในแบบง่ายที่สุดคือ ผสมหัวน้ำหอมในเบสหรือแอลกอฮอล์ในหลายๆ ความเข้มข้น เช่น 10%, 15%, 20%, 25% หรือจนกว่าจะพอใจ แล้วทดสอบด้วยตัวเองหรือกับคนรู้จักว่ากลิ่นไหนดีที่สุด แล้วจึงค่อยๆ ปรับความเข้มข้นตามความเหมาะสมอีกที หรือค่อยๆ ปรับปรุงสูตรต่อไปถ้าอยากให้น้ำหอมนั้นติดทนหรือกระจายมากขึ้น โดยการศึกษาเรื่องของการปรุงน้ำหอมเพิ่มเติม